1.
ประวัติความเป็น/แนวคิด
ออสบอร์น (Alex F.
Osborne)
กล่าวว่าการระดมสมองให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา
โดยไม่มีการประเมินว่าความคิดเห็นของใครว่าดีหรือไม่ดี
ความคิดเห็นของทุกคนจะถูกรวบรวม และนำเสนอให้สมาชิกทุกคนได้ทราบ
พร้อมทั้งสนับสนุนให้สมาชิกเสนอความคิดเห็นต่อเติมหรือเสริมของกันและกันได้
ส่งเสริมการสร้างสรรค์ความคิดเห็นและบรรยากาศของการยอมรับสำหรับความคิดเห็นทุกชนิด
การระดมสมองเป็น ส่วนหนึ่งที่จะสร้างความสำเร็จ
Brainstorming เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อรวบรวมความคิดเห็น
ปัญหา หรือข้อเสนอแนะจำนวนมากในเวลาที่รวดเร็ว อย่างเป็นแบบแผน
และเป็นวิธีการที่ดีในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วม
แนวคิดการระดมสมอง มาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ Brain Storming คำแรก คือ Brain หมายถึงสมอง ส่วนคำหลัง Storming หมายถึงพายุที่โหมกระหน่ำ แนวคิดแปลตรงๆ ก็คงหมายถึงการมุ่งใช้พลังความสามารถทางการคิดของสมองของมวลสมาชิกในกลุ่ม เพื่อคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
2. เครื่องมือนี้คืออะไรแนวคิดการระดมสมอง มาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ Brain Storming คำแรก คือ Brain หมายถึงสมอง ส่วนคำหลัง Storming หมายถึงพายุที่โหมกระหน่ำ แนวคิดแปลตรงๆ ก็คงหมายถึงการมุ่งใช้พลังความสามารถทางการคิดของสมองของมวลสมาชิกในกลุ่ม เพื่อคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
การปรับแนวความคิดร่วมกันระหว่างสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การแก้ปัญหา
เปิดโอกาศให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
องค์ประกอบ Brainstorming
1. กำหนดปัญหา
2. แบ่งกลุ่ม และอาจเลือกประธานหรือเลขา เพื่อช่วยในการอภิปรายและบันทึกผล
3. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกันคิดหาคำตอบหรือทางเลือกสำหรับปัญหาที่กำหนดให้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด โดยปัญหาของแต่ละกลุ่มอาจเป็นปัญหาเดียวกันหรือต่างกันก็ได้
4. คัดเลือกทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ หรือเหมาะสมที่สุด
5. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานของตน
6. อภิปรายและสรุปผล
3. เครื่องมือนี้คือ/ใช้เพื่อ
องค์ประกอบ Brainstorming
1. กำหนดปัญหา
2. แบ่งกลุ่ม และอาจเลือกประธานหรือเลขา เพื่อช่วยในการอภิปรายและบันทึกผล
3. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกันคิดหาคำตอบหรือทางเลือกสำหรับปัญหาที่กำหนดให้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด โดยปัญหาของแต่ละกลุ่มอาจเป็นปัญหาเดียวกันหรือต่างกันก็ได้
4. คัดเลือกทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ หรือเหมาะสมที่สุด
5. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานของตน
6. อภิปรายและสรุปผล
เครื่องมือการBrain Stormingคือการร่วมกันออกความคิด
แสวงหาทางเลือกในการตัดสินใจและ
ใช้ในการการวางแผน
ในภาษาไทยไว้เรียกว่า
การระดมสมอง กับ
การระดมความคิดปัจจุบันพบว่ามีการพยายามใช้คำว่า การระดมความรู้และประสบการณ์
เพื่อ
แสวงหาความคิดต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด
4.
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี.
มีกระบวนการแก้ปัญหาและมีคุณค่ามากที่จะใช้เพื่อแก้ปัญหา,
ก่อให้เกิดแรงจูงใจสูง และ
ฝึกการยอมรับความเห็นที่แตกต่างกัน, ได้คำตอบหรือทางเลือกได้มาก ภายในเวลาอันสั้น, ส่งเสริมการร่วมมือกัน ประหยัดค่าใช้จ่ายและการจัดหาสื่อเพิ่มเติมอื่นๆ
ข้อเสีย/ข้อจำกัด. ประเมินผลแต่ละคนได้ยาก, อาจมีส่วนน้อยเพียงไม่กี่คนครอบครองการ
อภิปรายส่วนใหญ่มักพบในการประชุมระดับชาติส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาทาง
5.
ขั้นตอนกำหนดการระดมสมอง ซึ่งประกอบด้วย 4 ประการ
ได้แก่ ฝึกการยอมรับความเห็นที่แตกต่างกัน, ได้คำตอบหรือทางเลือกได้มาก ภายในเวลาอันสั้น, ส่งเสริมการร่วมมือกัน ประหยัดค่าใช้จ่ายและการจัดหาสื่อเพิ่มเติมอื่นๆ
ข้อเสีย/ข้อจำกัด. ประเมินผลแต่ละคนได้ยาก, อาจมีส่วนน้อยเพียงไม่กี่คนครอบครองการ
อภิปรายส่วนใหญ่มักพบในการประชุมระดับชาติส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาทาง
—
1.
การแสดงความคิดออกมา
(Expressiveness)
สมาชิกทุกคนต้องมี
เสรีภาพอย่างสมบูรณ์ในการที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมาจากจิตใจ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นความคิดที่แปลกประหลาด กว้างขวาง ล้าสมัย หรือเพ้อฝันเพียงใด
— 2. การไม่ประเมินความคิดในขณะที่กำลังระดมสมอง (Non – evaluative)
ความคิดที่สมาชิกแสดงออกต้องไม่ถูกประเมินไม่ว่ากรณีใด ๆ เพราะถือว่า ทุกความคิดมีความสำคัญ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ความคิดผู้อื่น การแสดงความเห็นหักล้าง หรือครอบงำผู้อื่นจะทำลายพลังความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่ม ซึ่งส่งผลทำให้การระดมสมองครั้งนั้นเปล่าประโยชน์
— 3. ปริมาณของความคิด (Quautity) เป้าหมายของการระดมสมองคือ
ต้องการให้ได้ความคิดในปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ความคิดที่ไม่มีทางเป็นจริงก็ตาม เพราะอาจใช้ประโยชน์ได้ในแง่การเสริมแรง หรือการเป็นพื้นฐานให้ความคิดอื่นที่ใหม่และมีคุณค่า ยิ่งมีความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากเพียงใดก็ยิ่งมีโอกาสค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่ดี
— 4. การสร้างความคิด (Building) การระดมสมองเกิดขึ้นในกลุ่ม ดังนั้น
สมาชิกสามารถสร้างความคิดขึ้นเองโดยเชื่อมโยงความคิดของเพื่อนในกลุ่ม โดยใช้ความคิดของผู้อื่นเป็นฐานแล้วขยายความเพิ่มเติมเพื่อเป็นความคิดใหม่ของตนเอง
เสรีภาพอย่างสมบูรณ์ในการที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมาจากจิตใจ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นความคิดที่แปลกประหลาด กว้างขวาง ล้าสมัย หรือเพ้อฝันเพียงใด
— 2. การไม่ประเมินความคิดในขณะที่กำลังระดมสมอง (Non – evaluative)
ความคิดที่สมาชิกแสดงออกต้องไม่ถูกประเมินไม่ว่ากรณีใด ๆ เพราะถือว่า ทุกความคิดมีความสำคัญ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ความคิดผู้อื่น การแสดงความเห็นหักล้าง หรือครอบงำผู้อื่นจะทำลายพลังความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่ม ซึ่งส่งผลทำให้การระดมสมองครั้งนั้นเปล่าประโยชน์
— 3. ปริมาณของความคิด (Quautity) เป้าหมายของการระดมสมองคือ
ต้องการให้ได้ความคิดในปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ความคิดที่ไม่มีทางเป็นจริงก็ตาม เพราะอาจใช้ประโยชน์ได้ในแง่การเสริมแรง หรือการเป็นพื้นฐานให้ความคิดอื่นที่ใหม่และมีคุณค่า ยิ่งมีความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากเพียงใดก็ยิ่งมีโอกาสค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่ดี
— 4. การสร้างความคิด (Building) การระดมสมองเกิดขึ้นในกลุ่ม ดังนั้น
สมาชิกสามารถสร้างความคิดขึ้นเองโดยเชื่อมโยงความคิดของเพื่อนในกลุ่ม โดยใช้ความคิดของผู้อื่นเป็นฐานแล้วขยายความเพิ่มเติมเพื่อเป็นความคิดใหม่ของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น