Henry
L. Gantt
ความเป็นมา
Gantt เป็นวิศวกรเครื่องกลที่มีความคิดเช่นเดียวกับ Taylor และได้ทำงานร่วมงานกับ Taylor ที่บริษัท Midvale Steel Commpany ในปี 1887 และสร้างผลงานต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่วปี 1901 เขาได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมของเขาเอง เขาเชื่อในแนวคิดการปฏิบัติการตามหลักวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับ Taylor โดย Gantt ทำงานเป็นที่ปรึกษาในบริษัทต่าง ๆ มากมายในการคัดเลือกคนงานแบบวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาระบบจูงใจด้วยโบนัส เขาเน้นความต้องการและความสนใจทั้งฝ่ายบริหารและคนงาน การร่วมมือกันอย่างกลมกลืน
Gantt เป็นวิศวกรเครื่องกลที่มีความคิดเช่นเดียวกับ Taylor และได้ทำงานร่วมงานกับ Taylor ที่บริษัท Midvale Steel Commpany ในปี 1887 และสร้างผลงานต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่วปี 1901 เขาได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมของเขาเอง เขาเชื่อในแนวคิดการปฏิบัติการตามหลักวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับ Taylor โดย Gantt ทำงานเป็นที่ปรึกษาในบริษัทต่าง ๆ มากมายในการคัดเลือกคนงานแบบวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาระบบจูงใจด้วยโบนัส เขาเน้นความต้องการและความสนใจทั้งฝ่ายบริหารและคนงาน การร่วมมือกันอย่างกลมกลืน
Gantt เป็นที่รู้จัะกดีที่สุดในการพัฒนาวิธีการอธิบายแผนโดยกราฟเรียกว่า ผังแกนต์
(Gantt Chart) และสร้างการควบคุมการจัดการที่ดีขึ้น
ส่วนต้นทุนเขาเน้นความสำคัญของเวลาเช่นเดียวกับต้นทุนในการวางแผนและการควบคุมงาน
ทำให้ผัง Gantt มีชื่อเสียง
และนำมาใช้อย่างกว้างขวางเป็นรูปแบบของเทคนิคในปัจจุบัน
โมเดลนี้ใช้เพื่อ
gantt chart ใช้ในการวางแผนระยะเวลาที่ใช้ของงานแต่ละงานของโครงการ เราจะเห็นรายละเอียดว่าโครงการนี้มีงานย่อยๆอะไรบ้าง
และแต่ละงานใช้เวลาเท่าไหร่ งานไหนมาก่อนมาหลัง
gantt
chart ใช้ในการวางแผนระยะเวลาที่ใช้ของงานแต่ละงานของโครงการ เราจะเห็นรายละเอียดว่าโครงการนี้มีงานย่อยๆอะไรบ้าง
และแต่ละงานใช้เวลาเท่าไหร่ งานไหนมาก่อนมาหลัง
ข้อดีของโมเดล
<• ทำให้เข้าใจภาพรวมของระบบได้ง่ายขึ้น
<• เป็นเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์ในการวางแผนและแสดงตารางเวลาของโครงการ
<• เป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตามความคืบหน้าของโครงการ
ข้อเสียของโมเดล
ไม่สามารถบอกได้ว่าถ้ากิจกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเกิดความล่าช้า
แล้วจะมีผลกระทบกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นทีหลังอย่างไร
จัดทำอย่างไร
1. แจกแจงรายละเอียดกิจกรรมของแผนงาน
โดยแต่ละงานให้ระบุวันเริ่มต้น ประมาณการระยะเวลาที่ใช้
มีงานใดบ้างที่ต้องเริ่มพร้อมกัน หรือมีงาน ใดบ้างที่ลำดับก่อนหลัง
ซึ่งหากมีลำดับต้องระบุความสัมพันธ์ไว้ด้วย
2. สร้าง Gantt
Chart
3. วิเคราะห์การใช้ทรัพยากรของกิจกรรมต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่
ปัจจุบันได้มีการใช้โมเดลนี้กันอย่างแพร่หลาย โดยนำ Microsoft
Project
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น